วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เกิดมาแค่รักกัน

ลองหยุด . . .วิ่งตามเขาสักครั้ง

หากเรา หาเหตุผลให้กับตัวเอง ว่า . . . ทำไม . . . เราถึงรักคนๆ นี้นัก
แล้วเหตุผลที่ได้ มีแค่เพียง . . . รักเพราะรัก

ฟังดูอาจเลื่อนลอย ไร้จุดหมายเกินไป
แต่สำหรับคนที่รักกัน . . . เหตุผลเพียงแค่นี้ ก็เพียงพอ ที่จะสานต่อความรัก . . . ให้อยู่ต่อไป

แต่กับคนที่เรารักเขา . . . แล้วเขาไม่รักเรา
ไม่เคยจะมองเห็น แม้แต่คุณค่า ในตัวเรา
ต่อให้เรา หยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้เขาเพียงไหน
หรือให้เหตุผลมากมาย. . . ในคำว่า รักที่เรามีให้
เขาก็คง มองไม่เห็นมันเหมือนกัน

และกับคนประเภทนี้ . . . ยิ่งเราเรียกร้องมาก แค่ไหน . . . ก็จะยิ่งสร้างความเหนื่อยใจ . . . ให้กับเราเท่านั้น

ถ้าคุณ มีความสุขกับมัน . . . ก็ดีไป
แต่สุข . . . แล้วเหนื่อยใจ ก็น่าคิดเหมือนกัน
คนเรา . . . เหนื่อยแล้วก็ต้องพัก
ต้องหาทางออก ที่ทำให้เราดีขึ้น

กับเรื่องของความรัก ก็เช่นกัน
เมื่อเราต้องเหนื่อยล้าเพราะมัน คงต้องพักซะบ้าง
ลองหยุดวิ่งตามเขาซักครั้ง . . . แล้วมาเดิน(แค่เดิน) ตามตัวเองดูสักหน
คุณอาจรู้สึกดีกว่า . . . การต้องวิ่งตามใครคนนั้น
อย่างน้อยๆ คุณจะพบว่า . . . การเรียนรู้ที่จะรักตัวเองนั้น . . . ไม่ทำให้เราเหนื่อยใจเลย

ความจริงแล้ว . . . การรักตัวเอง ไม่ยากเลย
ถ้ายังไขว่คว้าหารัก แต่ยังไม่พบเจอคนที่รักเราจริง ก็อย่าฝืนที่จะรัก . . . เดี๋ยวจะเสียใจทีหลัง
ถ้าเสียใจ ก็ขอให้คิดถึงตัวเองให้มากๆ
แล้วบางทีสิ่งดีๆ . . . ก็อาจรอเราอยู่ในวันข้างหน้า

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

โปรดเถอะ....ใจ

สำหรับคนอื่นนั้น . . . คำตอบจะเป็นอย่างไร ฉันไม่รู้
ฉันรู้เพียงแต่ว่า . . . รัก . . .มันทำให้ฉันเสียใจ ตลอดเวลา
ก็อาจจะมีบางเวลาที่ . . . มีความสุข
แต่ . . . มันคงเป็นเพียงแค่เสี้ยวนาที . . . หรือ เศษเสี้ยวของวินาทีเท่านั้น

รู้สึกเหนื่อย และท้อเหลือเกิน กับรักที่เป็นอยู่ตอนนี้
ถามว่า . . . มีความสุขไหม . . . ตอบได้เลยนะว่า . . . มี(บ้าง)
ฉันมีความสุขทุกครั้ง . . . ที่เจอเธอ คุยกับเธอ คิดถึงเธอ
แต่เธอซิ . . . เคยนึกถึงหัวใจ . . . และความรู้สึกของฉันบ้างไหม

ทุกครั้ง . . . ที่เธออยู่กับเขา
ทุกครั้ง . . . ที่เธอมีเขาอยู่ข้างกาย
ทุกครั้ง . . . ที่เธอกอดเขา
ทุกครั้ง . . . ที่เธอพูดถึงเขา
รู้มั้ย . . . ฉันคนนี้เจ็บปวด และทรมานมากแค่ไหน
ฉันอยากให้เธอได้รับรู้ . . . ถึงความรู้สึกนี้บ้าง
เผื่อเธอจะได้ . . . สงสารฉัน

แต่มันก็เท่านั้นแหละ . . .
เพราะฉันไม่มีทางเลือก . . . ไม่มีแม้กระทั่งที่ไป
ตกอยู่ในวังวนนี้ . . . หนียังไง . . . ก็หนีไม่พ้น
พยายามที่จะหยุดรักเธอ แต่ . . . ก็ทำไม่ได้เลย
ฉันถึงได้เจ็บปวด . . . อยู่อย่างนี้ เรื่อยไป

ฉันเชื่อว่า . . . คงมีสักวันที่ . . . ฉันจะหยุดรักเธอได้
ฉันจะทำให้ได้ . . . ฉันไม่อยากอยู่ในสภาพนี้หรอกนะ

ได้โปรดเถอะ . . . นึกถึงหัวใจดวงนี้บ้าง
นึกถึงคน . . . คนนี้ . . . ที่รักเธอบ้างนะ . . .
และโปรดอย่าคิดว่า. . . ฉันไม่มีหัวใจ. . .

การก้าวเดินของความรัก

"ความรัก" ของคนเรา ก็มีเท้าเดินเหมือนกัน
เมื่อแรกเริ่ม . . . ความรักก็เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
เพราะ . . . อยากจะถึงจุดหมายที่หวังไว้

คือ . . . ใครคนหนึ่งที่เรารู้สึกดีๆด้วย เมื่อสมหวังแล้วความรักก็เดินไปเรื่อยๆ
. . . ไม่ต้องก้าวยาวและเร็ว
. . . เดินไปตามปกติและก้าวต่อไปเรื่อยๆ
. . . ในช่วงนี้ถ้าเดินเร็วไปอาจจะเจอหลุมและสะดุดได้
ก็คงจะต้องเดิน . . . อย่างระมัดระวัง . . . และก้าวให้ได้จังหวะ . . . ที่เหมาะสม

แต่เมื่อถึงเวลา . . . ที่ความรักผิดหวังหรือจบลง
ความรัก . . . ก็จะเดินช้าลง
บางทีอาจจะช้า . . . ช้าจนเหมือนเราเดินถอยหลัง

เหมือนกับ . . . คนที่หกล้มแล้วขาเจ็บ
จะเดินไม่ถนัดนัก . . . ต้องรอเวลาเพื่อรักษาให้แผลที่เกิดจากการหกล้มหาย
แล้วค่อยก้าวเดินต่อไป . . . อย่างปกติ

ความรักก็มี step ในการก้าวเดินไปอย่างนี้เรื่อยๆ
ช้าบ้าง . . . เร็วบ้าง จนกว่าจะถึงวันหนึ่งที่เราได้เจอคนที่ใช่จริงๆ วันนั้น . . . ความรักคงเดินต่อไปได้เรื่อยๆ

ถึงจะหกล้มบ้าง ตกหลุมบ้าง
แต่ . . . ก็ยังมีคนที่คอยประคอง คอยเดินไปด้วยกัน ไม่ใช่หกล้มแล้ว . . . ต้องลุกเดินต่อด้วยตัวเองอีกต่อไป

เมื่อความรัก . . . ก้าวเดิน
เราจึงต้องก้าวตาม . . . อย่างระมัดระวัง
จะหกล้มบ้าง จะสะดุดบ้างก็ต้องพยายามลุกขึ้น . . . และกลับมาเดินต่อไป ให้ได้ . . .
1. คนที่พยายามเข้มแข็งทั้งที่ยังอ่อนแอ มักจะได้แผลที่ใหญ่กว่าเดิม

2. อยู่กับความจริง ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากเห็น อย่ามองแค่สิ่งที่เราอยากมอง อย่าฟังแต่สิ่งที่เราอยากฟัง

3. จบแบบเจ็บ ๆ ดีกว่า เจ็บแบบไม่มีวันจบ

4. ก่อนจะมีรัก ให้เชี่ยวชาญการเป็นโสดเสียก่อน..

5. ไม่รักก็อย่ากั๊กไว้ ... ถ้าไม่ใส่ใจก็อย่าให้ความหวัง

6. หลาย ๆ ครั้ง เรามองข้ามคนใกล้ ๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง ...!!!... เค้าหายไป ถึงได้รู้ว่า ที่ผ่านมาเราน่าอิจฉาแค่ไหน..ที่ได้หัวใจเค้ามา...

7. บางครั้งเราเลือกจำ และฟังในสิ่งที่เราอยากให้เป็น

8. บางสิ่งมีค่าพอให้หยุดมอง แต่ไม่มีค่าพอให้ย้อนเดินกลับไป

9. ความรักไม่ใช่ถั่วงอก ... ที่เพาะไม่กี่วันก็กินได้..

10. ได้ยินคำเลว ๆ จากคนที่รัก ดีกว่าได้ยินคำว่ารักจากคนเลว ๆ

11. อยากได้แต่ไม่กล้าขอ อยากรอแต่ไม่กล้าหวัง ...ไม่มีใครไม่เคยเป็น..

12. บางคนขาดเค้าก็กลัวเหงา ลืมดูไปว่าบ่อยครั้งอยู่ใกล้เค้ากลับเหงากว่า..

13. ความรักไม่ใช่รางวัลของความดี อย่าคิดว่าหนูทำดีต่อเค้าตลอดแต่ทำไมเค้าไม่รัก เพราะคนดีกับคนที่รักอาจเป็นคนละคน

14. เราเข้าใจผิดว่าเลิกทั้งที่ยังรักกัน จริง ๆ อาจมีแต่ฉันที่รักเธอข้างเดียว

15. เจอฤดูหนาว ฤดูร้อน ฤดูฝน ไม่นานมันก็ต้องผ่านไป แต่ฤดูอกหัก คิดถึงทีไร แย่เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

16. บางสถานการณ์ ความอดทนอาจจะให้ผลตรงกันข้าม ยิ่งอดทน ยิ่งแพ้หรือเปล่า ไม่ทนเสียบ้าง บางทีชีวิตอาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่

17. คนบางคนก็เห็นแก่ตัวเกินกว่าจะเห็นแก่เรา อย่ามัวถามว่าทำไมต้องใจร้ายกับเราในวันที่เค้าอยากไปกับคนอื่นแล้ว

18. มีบางคนบอกว่า ชีวิตนี้ไม่บอกเลิกใคร...ฟังดูดี....แต่การไม่บอกเลิกใคร เขาแค่ไม่พูด แต่เขา ทำ ..

19. สุขทุกข์ต่างกันที่วิธีคิด แค่อย่าไปยึดติดอยู่กับความรู้สึก

20. การถอนหายใจ ไม่ได้แปลว่าหมดกำลังใจ แต่มันหมายถึงการพ่นเอาความเศร้าเล็ก ๆ ออกจากความคิด..

21. ถ้าคุณเจอคนที่รู้สึกว่า "ใช่" อย่าเพิ่งรีบใส่คำว่า "รัก"

22. บางคนอยู่สวย ๆ บนหิ้ง เค้าไม่ทิ้งแต่ก็ไม่ดูแล....

23. คนไหนเป็นของเรา จะเหวี่ยงกันไปไกลแค่ไหนก็เป็นของเรา แต่ถ้าไม่ใช่ ต่อให้พยายามแทบตาย ก็ไม่ได้ใกล้กันซักที

24. ความรู้สึกดี ๆ ที่มอบให้ ถ้าเขาไม่อยากได้ ,, ก็เอามาใช้เองสิ จะไปยากอะไร

25. บางคู่สมกันจริง ๆ คนหนึ่งทำร้ายจิตใจอยู่นั่น อีกคนให้อภัยอยู่นั่น

26. อะไรอยู่ใกล้ไปดูไม่สำคัญ ตัวเราอยู่กับเราตั้งแต่เกิดกลับให้คุณค่าคนอื่นมากกว่าจนมองข้ามตัวเอง

27. "เหตุการณ์" ไม่ได้ซ้ำเติมเรา แต่ "วิธีคิดของเรา" ซ้ำเติมตัวเอง..

28. องค์ประกอบหนึ่งของความรักคือความใส่ใจ ถ้าส่วนนี้หายไปยังจะเรียกว่า "รัก" อยู่หรือเปล่า??

29. เป็นแฟนไม่ได้...บางทีก็ยากทำใจจะให้เป็นเพื่อน เธอคงหาว่าฉันใจแคบ ...เอ้าาา แคบ ก็ แคบ ถ้าไม่แคบจะมีเธอยู่ในนั้นได้เพียงคนเดียวหรือ???

30. เธอเคยฝืนใจรับใบปลิวที่แจกตามหน้าห้างสรรพสินค้า เพราะเกรงใจคนแจกมัน และบางทีอาจมีคนรับความรักของเธอไป เพราะเหตุผลอย่างเดียวกัน สุดท้าย...เขาก็ทิ้งมัน เหมือนกับที่เธอทิ้งใบปลิวนั่นแหละ

31. บางที มันเป็นเส้นบาง ๆ ระหว่าง "เจ้ากรรมนายเวร" กับ "สามี"

32. บางทีการที่มีคน ๆ หนึ่งบอกเราว่า "เคยรักนะ แต่วันนี้ไม่รักอีกแล้ว" มันยังเข้าใจได้มากกว่า ที่จะบอกว่า "เธอดีเกินไป" / "ฉันอยากอยู่คนเดียว"...ทำไม รู้สึกตัวตอนนี้หละ ทีตอนนั้น ไม่เห็นอยากอยู่คนเดียวเลย..

33. การคบใครที่ดีที่สุดให้ชีวิตไม่ได้แปลว่าคบหลายๆคน แล้วค่อยเลือกให้เหลือคนเดียว เพราะถ้าเกิดเราโดนทำแบบนี้บ้างเราคงไม่ชอบเหมือนกัน

34. คนสองคนไม่ต้องรักมาก ขออย่าเข้าใจกันยากก็พอ...

35. คำ..."อธิบาย"ชอบเอามาใช้ในวันที่ไร้ประโยชน์
คำ..."ขอโทษ" ชอบเอามาใช้ในวันที่....สาย
คำว่า..."รัก "ชอบเอามาพูดกั๊ก...ตอนมัน"เสียดาย"
และคำพูด....อีกมากมาย ที่เอามาล่อให้กลับไป อยู่ในคอกควายเช่นเดิม!!

อย่าพยายามให้ใครมาแทนที่ใคร

อย่าพยายามให้ใครมาแทนที่ใคร เพียง "เหงาใจ" หรือเพื่อที่จะลืมรักครั้งเก่าได้ง่าย ๆ เพราะทุกคนมีพื้นที่พิเศษที่จะยืนอยู่ในหัวใจใครสักคน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง ไม่ปะปนกับใคร รวมถึงอย่าปล่อยให้ความ "เหงา" มาชักจูงหัวใจ ให้ไปทำร้ายใครโดยไม่รู้ตัว เพราะบางทีคุณแค่รู้สึกเหงาแต่ไม่ได้รัก ขณะที่อีกคนหนึ่งกลับรักอย่างล้นใจ ผลที่ตามมาคงไม่พ้นคำว่า "เสียใจ"

ที่สำคัญไม่มีใครแทนใครได้ คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะด้วยรูปร่างหน้าตาหรือลักษณะนิสัย มันจะเกิดการเปรียบเทียบ จนทำให้ตัวคุณเองนั่นแหละ ยังวนเวียนคิดถึงหรือจมปลักอยู่กับความทรงจำเก่า ๆ เดิม ๆ ที่ไม่มีค่าในสายตาของเขาอีกแล้ว และหากมองมุมกลับกัน คุณก็ไม่อยากไปยืนแทนที่ใครเพียงเพราะเขา "เหงาใจ" หรอก (จริงไหม)

ถ้าวันหนึ่งคุณเจอคน "ใช่"สำหรับใจแล้ว "ความรู้สึก" จะบอกคุณเอง ไม่ต้องไปหาใครมาแทนที่ใคร เพราะหากเมื่อไหร่ก็ตามที่ "หัวใจ" ยังไม่เจอคนที่ "ใช่" มันก็ยังไม่มีทางลืมอดีตได้หรอกนะ

สิ่งที่ดีที่สุด คือ หยุดที่ใจเรา

เคยไหม...ที่คุณก้าวเดินไปข้างหน้า
แต่รู้สึกว่ามันเป็นการถอยหลังกลับ

เคยไหม...ที่ท้องฟ้าในโลกส่วนตัวของคุณ
กลับเปลี่ยนจากสีฟ้ามาเป็นเมฆครึ้มสีเทาหม่น
โดยไม่มีเค้าลางแห่งพายุร้าย

ทุกอย่างพัดพาคุณกลับไปสู่จุดเริ่มต้น
หรือไกลกว่านั้น...เปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นหยดน้ำตา
เปลี่ยนเสียงหัวเราะเป็นเสียงสะอื้นไห้
ความทุกข์เข้ามาทดแทน
วันเวลาแห่งความสุขของคุณจนหมดสิ้น

ความคาดหวังคือปัจจัยหลักของความทุกข์
ความฝันบางครั้งก็เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดทุกข์
ชีวิตคนเรามีปัญหา เพิ่มมากขึ้นตามวันเวลาที่หมุนไป

ทุกๆ วันเหมือนกับต้องตื่นขึ้นมา
เพื่อเดินเข้าไปในสมรภูมิรบ ฟาดฟันกับปัญหา
หากคุณชนะคุณก็จะเดินจากมา พร้อมความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง
หากคุณแพ้คุณก็อาจล้มจมอยู่กับที่

แล้วจะมีใครสักกี่คนบนโลกใบนี้
ที่จะคอยยื่นมือให้ความช่วยเหลือเมื่อเราเจ็บปวด
เอาเข้าจริงในโลกใบนี้...เราจะมีใคร?
ใครที่เป็นของเราจริงๆ เกิดมาเพื่อเราจริงๆ

บทเรียนของการเดินถอยหลัง
ทำให้รู้ว่าความคาดหวัง มักมาพร้อมกับความผิดหวังเสมอ
เราคาดหวังว่าจะมีใครมาร่วมแบ่งปันความรู้สึก
คอยประคับประคองอยู่เคียงข้าง...คอยรับเมื่อเราล้ม
แล้วตั้งความหวังว่าเขาจะยืนอยู่เคียงข้างเราไปจนวันตาย
มีลมหายใจของกันและกันอย่างอบอุ่น

แต่ในโลกของความเป็นจริงก็คือ...เราต้องยืนด้วยตัวเองให้ได้
หายใจด้วยตัวเองให้ได้...ลุกด้วยตัวเองให้ได้
อ้อมแขนและลมหายใจของคนอื่น
เป็นเพียงส่วนประกอบ ที่ทำให้เราเต็มพร้อมสมบูรณ์

เราจำเป็นต้องก้าวเดินต่อไปให้ได้ แม้ไม่มีส่วนประกอบนั้นก็ตาม
ฉันได้เรียนรู้ว่า...ความฝันจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง
เพื่อลดความเจ็บปวดในชีวิต

เช่นเดียวกับความรัก
สิ่งที่เรามอบไปอย่างทุ่มเท...โดยไม่เคยคิดถึงความผิดหวังที่จะ ตามมา
มักทำให้เราเจ็บปวดจนสุดจะทน

ความรัก...เปลี่ยนแปลงได้
รอยเท้าของเราเหยียบย่ำไปท่ามกลางความสับสน
บางครั้งเข็มนาฬิกาก็เดินเร็วขึ้น...บางครั้งกลับเดินช้าลง
ทุกอย่างไม่เป็นดั่งที่วาดหวังไว้เสียที
เพราะเราควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้

ความคิดของเขา...อาจทำให้เราเจ็บปวดจนสุดจะทน
แต่เราก็ยังจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่...เพื่อรับรู้ถึงความเจ็บปวด นั้น
ดังนั้นเมื่อมีน้ำตาและตัดสินใจว่าจะต้องเปลี่ยนแปลง อย่าหันกลับไปทางเดิม
เพราะเรากำลังจะเดินจากมันมา...อาจไม่ใช่เขาหรือเราเป็นคนไม่ดี

แต่ในบางเรื่อง...ก็อาจมีเหตุผลมากกว่าหนึ่งอย่าง
อย่าพูดว่าเราทำเพื่อเขา...แต่กลับเอาตัวของเราเป็นที่ตั้ง
เพราะนั่นไม่ใช่รักที่แท้จริง

ถ้าบนทางเดินที่ผ่านมาเราก้าวเร็วเกินไป
มองย้อนกลับไปดูตัวเองใหม่...แล้วหัดเดินให้ช้าลง

อวสาน...นกแปลกฟ้า

ผู้คนมากมาย...ต่างเฝ้าหวังอยากมีอิสระเสรีภาพ
เพื่อที่จะโบยบิน...ไปยังทุกแห่งหน
ตามที่ใจปรารถนา

ฉันเอง...ก็ไม่แตกต่างไปจากผู้คนเหล่านั้น
ที่เฝ้าฝันว่าสักวันหนึ่ง...จะออกโบยบิน
ไปให้ไกลจนสุดขอบฟ้า

แต่เมื่อวันหนึ่ง...วันที่ฉันเริ่มโผบิน
จากผืนดิน...มุ่งสู่ฟากฟ้า ที่กว้างใหญ่
ฉันกลับรู้สึกอ้างว้าง...เดียวดาย

ฉันยิ่งบินสูง...มากขึ้นเท่าไหร่
หัวใจของฉันกลับยิ่งตกต่ำลงมากเป็นทวีคูณ
ความว้าเหว่เกาะกินหัวใจของฉันจนฉันรู้สึกอ่อนแรง

ฉันมองย้อนกลับไป...ณ จุดเริ่มต้นที่ฉันโผบิน
ฉันมองไปไม่เห็นใครๆ...ฟากฟ้าช่างแสนไกลเหลือเกิน
ฉันยิ่งบินไกลเท่าไหร่...ฟากฟ้ายิ่งเคลื่อนไกลออกไปจนสุดตา

วันแล้ว..วันเล่า เดือนแล้ว...เดือนเล่า ปีแล้ว...ปีเล่า
ฉันยังไม่อาจโบยบิน..ไปถึงฟากฟ้าที่ฉันเฝ้าฝัน
วันนี้...ฉันหมดเรี่ยวแรง แม้เพื่อจะบินกลับไปยังจุดเริ่มต้น

ฉันเริ่มรู้สึกตัวเอง เหมือนเป็น “นกแปลกฟ้า”
ที่ต้องโบยบินอย่างเดียวดาย...ท่ามกลางฟากฟ้าที่กว้างใหญ่
กับหัวใจที่อ้างว้าง...และแสนเศร้ายิ่งนัก

วันนี้...“นกแปลกฟ้า” อย่างฉัน...เริ่มมีน้ำตาร่วงริน
ความหวังมากมาย...เริ่มจางหายไปจากใจ
ฉันไม่มีเรี่ยวแรงพอ...แม้แต่จะกระพือปีกบินอีกต่อไป

ในที่สุด...ร่างที่ไร้วิญญาณของ “นกแปลกฟ้า”
ก็ร่วงลงสู่ดิน...ไร้ซึ่งผู้คนเหลียวแล
“ลาก่อน...นกแปลกฟ้า”

ความรัก กับ ความผูกพันธ์

มีหลายคนที่สับสนกับคำสองคำนี้
ความรัก กับ ความผูกพันธ์ มันคืออะไรนะ ต่างกันอย่างไร
ความรัก กับ ความผูกพันธ์ เหมือนกันมั้ยนะ
ถ้าไม่มีความผูกพันธ์ก็เกิดความรักได้นี่นา
แต่ถ้าเกิดความรักแล้วไม่มีความผูกพันธ์ล่ะ
จะเป็นไปได้รึเปล่านะ

สำหรับฉัน ความรักกับความผูกพันธ์ไม่เหมือนกัน
มันแตกต่างกัน
ความรักเกิดขึ้นได้เสมอ ทุกที่ ทุกเวลา
ไม่ว่าเมื่อไหร่ ที่ไหน กับใครก็ตาม
บางครั้งเกิดขึ้นโดยที่ฉันไม่รู้ตัว และไม่สามารถตอบได้
ความรักคือการให้ การทุ่มเท การให้ความรู้สึกดีๆ
ให้สิ่งที่เกินพอสำหรับใครซักคนที่เรารัก
การทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข
จนเหมือนกับว่าคนๆ นั้นเป็นคนที่พิเศษกว่าคนอื่น
(ซึ่งจริงๆ แล้วก็ใช่)
ความรักจึงเป็นการทำเพื่อคนๆ หนึ่ง ซึ่งไม่ว่าเมื่อไหร่ เวลาไหน
สำหรับคนที่เรารัก ความคิดถึง ความเป็นห่วงจะเกิดขึ้นตลอดเวลา
เราจะห่วงว่าเขาไปที่ไหน ไปกับใคร
ความรัก เกิดขึ้นได้แม้เพียงพบกันแค่นาที
แค่เห็นหน้าเพียงครั้งแรก ครั้งเดียว
ความรักไม่จำเป็นต้องใช้เวลา
แต่การจะทำให้ความรักคงอยู่ หรือเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่
นั่นต่างหาก
เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา และนำความผูกพันธ์ใส่ลงไป
เพราะความผูกพันธ์เป็นสิ่งที่ทำให้คนสองคนได้รู้จักกันมากขึ้น

เป็นช่วงเวลาที่ทำให้คนสองคนปรับตัวเข้าหากัน
ความรักจะคงอยู่ได้ หากความผูกพันธ์เกิดขึ้น

ความผูกพันธ์นั้นต่างกับความรัก
เพราะการผูกพันธ์กับใครซักคน ไม่จำเป็นที่เราจะต้องรัก
สำหรับความผูกพันธ์ มันคือความรู้สึกคิดถึง
ช่วงเวลาหนึ่งที่เคยเกิดขึ้น การที่เราคิดถึงคนๆ หนึ่ง
เวลาที่เราจากกัน เวลาที่ไม่ได้พบ ไม่ได้พูดคุย นั่นไม่ใช่ความรัก
เราไม่ได้ทำสิ่งใดเพื่อเค้า
เราไม่ได้ต้องการให้สิ่งใดกับเค้า
ไม่ได้ห่วงว่าเขาจะไปกับใคร เมื่อไหร่ หรือที่ไหน
แต่เราเพียงแค่คิดถึง ความทรงจำที่ดี เวลาที่เคยอยู่ด้วยกัน
ดังนั้น ความผูกพันธ์จึงเป็นเพียงความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการใช้เวลา

มันเป็นความทรงจำ เป็นความรู้สึก และไม่ใช่ความรัก
เพราะเกิดได้กับทุกคน กับเพื่อน พี่ น้อง
หรืออาจเป็นใครก็ตามที่ครั้งหนึ่ง เคยใช้เวลาอยู่ร่วมกัน

มันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความคิดถึง
และเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดความรักนั่นเอง
ทั้งความรักและความผูกพันธ์ เป็นสิ่งที่ควรมีอยู่ร่วมกัน
ถึงแม้ว่ามันจะแตกต่างกันก็ตาม สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ว่า
เราจะแยกมันออกจากกันได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง
ว่าอันไหนคือความรัก
อันไหนคือความผูกพันธ์
เพราะจริงๆ แล้วมันแทบจะไม่ต่างกันเลย
เพราะทั้ง 2 สิ่งควรจะมีอยู่คู่กัน

ปัญหาของความรักกับความผูกพันธ์อยู่ตรงที่
บางคนไม่สามารถแยกได้ว่า
ความรัก กับ ความผูกพันธ์ ต่างกันตรงไหน
ความสับสน ความลังเล จะเกิดขึ้น
ถ้าหากวันนึง คุณรักใครซักคน และมีความผูกพันธ์กับใครอีกคน
คุณจะตอบตัวเองได้หรือเปล่าว่า
คุณจะเลือกใคร หากคุณคิดว่า
คนที่คุณผูกพันธ์คือคนที่คุณไม่สามารถลืมเค้าได้
และคนที่คุณรัก คุณก็ไม่สามารถเลิกรักเค้าได้เช่นกัน
จำไว้ว่า…
จงเลือกคนที่หัวใจของคุณต้องการ อย่าใช้คำว่าถูกหรือผิด
เพราะมันใช้กับความรักไม่ได้

แต่จงใช้หัวใจของคุณเอง
หากคุณต้องการค้นหาใครซักคนที่จะอยู่เคียงข้างคุณไปตลอดชีวิต

เจ้าหญิงอ่อนไหว กับ เจ้าชายเย็นชา

มีเจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหวผู้ซึ่งอาศัย อยู่บนภูเขาแห่งดอกไม้อยู่หนึ่งคน เธอมีดวงตาที่อ่อนไหวนัยย์ตาอ่อนโยนคู่นั้นมีแววของความโศกเศร้าอยู่เบื้อง ลึกที่ถูกกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เธออาศัยอยู่บนภูเขาแห่งดอกไม้นั้นเพียงลำพังจนกระทั่ง มีเจ้าชายแห่งความเหงา เดินทางมาพบภูเขาลูกนี้โดยบังเอิญ สีสันของดอกไม้หลายๆดอก ทำให้เจ้าชายหยุดอยู่ที่นี่ ราวกับถูกมนต์สะกด...
เจ้าชายมองเห็นเจ้าหญิง ผ่านดอกไม้กลีบใสๆ ทันทีที่พบกับเจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว เจ้าชายรู้สึกรักเธอตั้งแต่แรกพบหากแต่เจ้าหญิง มิได้รู้สึกเฉกเช่นเดียวกับเจ้าชาย เธอกลับรู้สึกว่าเขาเป็นใครเหตุใดจึงมาพบ ภูเขาแห่งนี้ได้ และด้วยสายตาคู่นั้นยิ่งทำให้เจ้าหญิง ไม่คิดจะไว้ใจ ชายคนนี้เลย เจ้าชายแห่งความเหงา ตะโกนบอกเจ้าหญิงว่า..."เราจะไม่มาทำความรู้จักกันหน่อยหรือเจ้าหญิง??"....
เมื่อได้ยินคำดังกล่าวจึงเดินตามเสียงตะโกนนั้นไปเมื่อเวลาล่วงเลยเนิ่นนานผ่านไป เจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหวรู้สึกตัวว่าความแห้งผากของพื้นดินที่ร้างลาการได้รับน้ำและการดูแลจากเจ้าหญิงนั้นช่างดูน่าเศร้ายิ่งนัก ดังผืนดินนั้นร้องไห้ดอกไม้ที่เคยเผยอชูช่อสลอนก็ไร้ซึ่งวี่แววเพราะแม้ เพียงกอหญ้าก็มิอาจเติบโต ขึ้นมาได้ เจ้าหญิงเดินสำรวจบ่อน้ำมีน้ำเต็มอยู่ มองเห็นองค์เองอย่างบังเอิญ จึงได้เกิดความคิดว่าคงปล่อยให้เหล่าดอกไม้พวกนั้นหายไปไม่ได้ ช่างคิดถึงดอกไม้พวกนี้เหลือเกิน เจ้าหญิงเกือบลืมวิธีดูแลดอกไม้ไปซะแล้ว ะปลูกดอกอะไรก่อนดี จะปลูกตรงนั้น ตรงโน้น และตรงนี้ควรแบ่งช่องว่างให้กับคนรักบ้าง....
ชีวิตทุกชีวิตต่างมีอิสรเสรี การพูดจาปรับความเข้าใจกันของคนสองคนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่มีใครทำอะไรให้อีกฝ่ายได้พอใจทั้งหมด แต่การยอมรับในสิ่งที่เค้าเป็น...และช่วยกันคิดหาทางออกเมื่อมีปัญหา..นั่น คือสิ่งที่สำคัญที่จะยึดคนสองคนไว้ด้วยกัน ตราบนานเท่านานและแล้ว....เมื่อโลกของคนสองคนเปิดกว้างสู่มุมมองความรักแบบ ใหม่เมื่อนั้น....ความเหงาที่เกิดจากการยึดติดแต่ความต้องการของตนเอง...ก็จะหมด ไปและเมื่อนั้นเอง....ที่เจ้าชายก็จะหายเหงาไม่วิ่งหนี...แต่ไม่วิ่งตาม ไม่หักห้าม...แต่ไม่กระโจนใส่ถ้าจะเปรียบกับชีวิตจริงของคนเราความรักนอกจากจะเป็นแค่เราสองแล้ว สิ่งที่อยู่รอบข้าง เป็นสิ่งที่คนสองคนควรจะร่วมกันสร้างขึ้นมา จะเป็นสิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวความสัมพันธ์ของคนสองคนให้แน่นแฟ้นมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนฝูง สังคม การงาน หรือบ้านหลังเล็กๆๆทั้งการได้ให้ความรัก และการได้รับความรักจะทำให้ความรักยืนยาวแต่....บางสิ่งบางอย่างกำลังเกิดขึ้นเจ้าชายได้เรียนรู้วิธีดูแลและรักษาดอกไม้ด้วยตัวเอง เจ้าชายเฝ้าดูแลดอกไม้ที่ค่อยๆเติบโตจากเมล็ดเล็กๆๆ กลายเป็นต้นไม้น้อยๆๆๆ จวบคนค่อยๆๆ แย้มกลีบดอกสวยงามให้เชยชม
เจ้าชายได้เรียนรู้ว่า ที่ผ่านมานั้น ความเหงาที่เคยต้องทุกข์ทรมาณอยู่ตลอดมาเป็นเพราะเจ้าชายเองมัวแต่ยึดติด อยู่กับความคิดความต้องการของตัวเอง เกิดจากความคาดหวัง ต้องการให้มีคนดูแล เฝ้าคอยเอาใจใส่ และโดยการคิดว่า โลกนั้นมีเพียงแค่เจ้าชายและคนรัก แต่ความคิดอย่างนั้น....กลับผิดไปถนัดซะนี่ ดูซิ....ดูดอกไม้เหล่านี้ แทนที่...ตอนนี้จะมีแค่เจ้าชายและเจ้าหญิงแต่เค้าทั้งสองกลับมีสวนดอกไม้สวย งาม มีคนชื่นชมและแวะมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆๆๆเมื่อใกล้ยอดเขา เหล่าผีเสื้อสีเหลือง ชมพู ฟ้า แดง บินมาทักทายเจ้าชาย ใบหน้าสุดเหงาของเจ้าชายไม่มีแววความเหงาอยู่แม้น้อยนิด ดวงตาเบิกกว้าง รอยยิ้มบ่งบอกความสบายใจ และแล้วเจ้าชายก็พบเจ้าหญิงองค์เดิมที่แม้เวลาผ่านไปความอ่อนหวานยังคงเดิม แต่หากที่เพิ่มเติมคือความอบอุ่นและมั่นคงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเจ้าชายผู้หายเหงาและเจ้าหญิงแห่งหุบเขาดอกไม้ผู้อ่อนหวาน ก็ครองรักคู่กันอย่างมีความสุขทุกเช้า.....
เจ้าชายจะเฝ้าติดตามเจ้าหญิงผู้เป็นที่รักไปยังสวนดอกไม้เจ้าหญิงเบิกบานแข็งแกร่งขึ้น และบัดนี้อนาเขตของภูเขาดอกไม้ได้แผ่ขยายเป็นหุบเขาดอกไม้ ผู้คนใดที่ต้องการเรียนรู้เรื่องดอกไม้สนใจพันธ์ดอกไม้ คนแรกที่พวกเค้านึกถึงคือเจ้าหญิงแห่งหุบเขาดอกไม้ผู้อ่อนหวาน เจ้าชายรอนแรมเดินทางมาถึงทางที่น่าจะคุ้นเคยแต่กลับแปลกใจว่าเหตุใดเส้นทาง นี้ช่างหอมหวล สบายใจ อยากเดินให้ถึงยอดหุบเขาเสียจริงใครกันเป็นเจ้าของดอกไม้พวกนี้ใครกัน แล้ววันนึงในป่าใหญ่เจ้าม้าคู่ชีพ ได้บังเอิญพบรักกับ ม้าสาวแสนสง่า ขนตางอน เจ้าม้านักเดินทางตัดสินใจขออยู่กับม้าสาวเมื่อความเหงาถึงขีดสุดเจ้าชายนึกถึงใครบางคนที่ลางเลือนเหลือเกินแต่รู้สึก ได้ถึงความชุ่มช่ำ อ่อนใส พายุพัดแรง ลมโบกโบยเจ้าชายพยายามดั้นด้น เดินทาง พายุพัดคราวนี้เป็นอุปสรรคในการเดินทางมากนักและปราศจากแล้วซึ่งม้าคู่ใจแต่ เจ้าชายเองก้อมิได้ทัดทานเจ้าม้าเพื่อนยากใดๆเมื่อวันวานผ่านพ้นเจ้าชายแห่งความเหงา ยังคงเดินทางต่อไปและต่อไป ผ่านเมืองนึงสู่เมืองนึง เพลิดเพลินกับสิ่งแปลกตา ผู้คนเปลี่ยนไป สีสันของเมืองแต่ละเมืองช่างน่าหลงใหล แต่นั้นเป็นเพียงชั่วครู่และไม่สิ้นสุด เวลาผ่านไปเมืองต่างๆ ทำไมช่างเหมือนกัน และที่สำคัญความเหงาไม่เคยหายไปเลยสักครั้งบางครั้งมันเหงาจนไม่สามารถ บรรยายได้ เจ้าชายตอบไม่ได้ว่าทำอย่างไรเจ้าชายจึงหายเหงาจงเป็นปกติรักด้วยความพอเหมาะ รักให้เป็นใครเคยกล่าวไว้ว่า...
"การเริ่มต้นรักของผู้ชายมากมายนักด้วยรัก การเริ่มต้นรักของผุ้หญิงน้อยค่านัก หากเมื่อเวลาผ่านไป ค่าของความรักในใจก็เปลี่ยนไป รักของผู้หญิงมากขึ้น แต่กลับกันรักของเธอ มัน ไม่เหลือเลย คงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนไหว และผู้ชายขี้เหงาการเริ่มต้นและการสิ้นสุดของความรักนั้นจึง ต่างกันอย่างสิ้นเชิง"
ฉันก็แค่ผู้หญิงอ่อนไหวเธอก็แค่ผู้ชายขี้เหงา...ความ รัก แค่ ลม ร้อน วูบ หนึ่ง ที่ ผ่าน มา ทำ ให้ ใจ อ่อน ไหว อบอุ่น บาง คราว มัน ก็ กรีด หัว ใจ เรา ให้ ด้าน ชา และ แห้งผากจงดำเนินชีวิตอย่างปกติอยู่ร่วมกับความรักด้วยความพอดี อย่าลืมดูแลดอกไม้ของเราด้วย ดอกไม้ในเรื่องนี้ฉันนิยามมันให้เป็นตัวตนของผู้หญิงทุกคนจงมีความสุขกับ ความรักและพร้อมที่จะยอมรับความจริงว่าเขาพร้อมที่จะจากเราไปทุกเมื่อวันนี้
เจ้าชายแห่งความเหงาตัดสินใจ เดินทางจากไป ไม่มีแม้คำอำลา เจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว ไม่พบแม้ใครบนภูเขาแห่งนี้ เธอร่ำไห้อย่างน่าอาดูร น้ำตาของเธอไหลรินมากมายเหลือเกินจนทำให้มวลดอกไม้ที่ล้มตาย ฟื้นกลับคืนมายืนต้นอีกครั้ง หล่อนจึงดำเนินชีวิตอย่างเคยทำเหมือนไม่เคยมีใครเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต หล่อน แต่ความเศร้าก็พร้อมที่จะทำร้ายหล่อนได้เสมอ เมื่อคิดถึงหรือนึกถึงเจ้าชายแห่งความเหงา เธอพึมพำกับมวลดอกไม้เบาๆว่าความรักของฉันอยู่ไหนเจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว ยังคงคิดถึงเจ้าชายแห่งความเหงาอยู่เสมอ หากเธอก็ไม่โทษว่า เขาผิดเฝ้าโทษตัวเองว่า เหตุใดเราจึงไม่รักเขาอย่างพอเหมาะเขาเป็นเพียงแค่ผู้ชายขี้เหงาคนหนึ่งที่ วันนึงเขาผ่านเข้ามาทำให้เราได้รู้จักรัก ได้รักให้เป็นเขาเป็นเพียงแค่ผู้ชาย ผู้ชายไม่รักผู้หญิงเอาแต่ใจเฉกเช่นหล่อนนักหรอกการเฝ้าปลอบใจตัวเองของเจ้า หญิงแห่งความอ่อนไหว คือบทเรียนของความรักเพียงอยากให้ผู้หญิงทุกคนรู้ว่าผู้ชายก็เป็นเพียงแค่ มนุษย์ขี้เหงา มีเพียงความเหงาในหัวใจความรักของเขาไม่เคยจีรัง อย่าไปให้หัวใจของเราทั้งหมดแก่เขาเพราะเขาอาจดูแลได้ไม่ดีเท่าเราดูแลเจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว รู้เพียงแต่ว่า ผู้ชายคนนี้คือ คนที่พร้อมจะดูแลเธอ พูดคุยกับเธอ และ อยู่กับเธอบนภูเขาแห่งนี้ คนสองคน ใจสองใจ เป็นความต่างที่ไม่ลงตัว ความรักของเจ้าชายที่เคยเต็มเปี่ยมในใจ วันนี้เหลือเพียงแค่ความรำคาญอึดอัดใจความรักของเจ้าหญิงที่ไม่เคยมีในใจ วันนี้กลับเปี่ยมล้นไปด้วยความรักเจ้าชายแห่งความเหงาเฉยชา กับ เจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว ไม่มีการพูดคุยไม่มีการมองตา ไม่มีการจับมือเหมือนเคย เจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว แอบร้องไห้เพียงลำพัง ทางด้านหนึ่งของภูเขา เจ้าชายยืนอยู่อีกด้านหนึ่งเช่นกัน ความเงียบ ความแห้งแล้ง เดียวดาย สายลมร้อน ได้พัดผ่านภูเขาลูกนี้ราวกับจะกลั่นแกล้งเจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหวให้ชาชิน กับความรู้สึกเดียวดายหลังจากที่ได้รู้จักกันแล้วเจ้าชายแห่งความเหงาตัดสินใจได้ทันทีว่าเขาพร้อม ที่จะหยุดการเดินทางที่ภูเขาแห่งนี้ การสนทนาของคนทั้งคู่ทำให้พวกเขาผูกพันกันมากขึ้น เจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว เริ่มมีใจให้กับเจ้าชายจนกระทั่งเธอลืมดูแลดอกไม้ทั้งมวล ดอกไม้บนภูเขา พากันล้มตาย เจ้าหญิงเอาใจใส่ เพียงแค่เจ้าชายคนรัก เจ้าชายแห่งความเหงา เริ่มเฉยชากับเจ้าหญิง เมื่อหล่อนไม่คิดจะทำอะไรนอกเสียจาก การได้พูดคุย หรือการได้รักตน เจ้าชายแห่งความเหงา จึงรู้สึกได้ถึงความอึดอัด ความเหงาได้แผ่ซ่านขึ้นมาในใจของเจ้าชายอีกครั้ง



"การเริ่มต้นรักของผู้ชายมากมายนักด้วยรัก การเริ่มต้นรักของผุ้หญิงน้​อยค่านัก หากเมื่อเวลาผ่านไป ค่าของความรักในใจก็เปลี่ยน​ไป รักของผู้หญิงมากขึ้น แต่กลับกันรักของเธอ มัน ไม่เหลือเลย คงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนไหว และผู้ชายขี้เหงา "

สิ่งที่เราเฝ้าตามหา....

       แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่า เพียงแค่มีบางสิ่ง..... ชีวิตก็มีความหมายแล้ว..... มนุษย์เกิดขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยว พร้อมด้วยหัวใจคนละ 1 ดวง เมื่อมนุษย์ 2 คน มาพบกัน เราจึงเรียนรู้ว่า...... 1 + 1 อาจจะยัง คงเท่ากับ 1
แต่ความโดดเดี่ยวนั้นหายไป..... ที่เล็ก ๆ ขนาดไม่ใหญ่โตไปกว่ากำปั้น ที่ทำให้เราอยู่รวมกันบนโลกใบนี้ อวัยวะที่สะกดด้วยอักษรง่าย ๆ ใช้แทนคำว่า "รัก" ได้เป็นอย่างดี
ความรัก...ที่ประทับใจขอเก็บไว้ในใจแล้วอมยิ้มนะ ความรัก...ที่ไม่ประทับใจขอเก็บไว้เป็นประสบการณ์ ความรัก...ที่ทำเพื่อผู้อื่นเป็นความภูมิใจแบบเก็บไว้เอง ความรัก...ที่ทำเพื่อตัวเองนั่นไม่เรียกว่ารัก ความรัก...ที่คุณเจอในอดีตขอให้เป็นความทรงจำที่แสนดี ความรัก...ที่คุณเจอในปัจจุบันขอให้สมหวังกันทุกคน ความรัก...ที่คุณจะเจอในอนาคตขอให้.....อธิษฐานกันเอาเองนะ

"
ถ้าอ๊อกซิเจนทำชีวิตนี้ดำรงอยู่ได้ ความรักก็ทำให้การมีชีวิตนั้นมีความหมายมากยิ่งขึ้น"
เคยมั้ยที่จะมี..... คุณเคยมีคนแบบนี้ที่ไม่ใช่พ่อแม่พี่น้องหรือยัง...? ตอบตัวเองให้ได้ว่าใคร... เคยมั้ยที่จะมี... คนให้อภัยคุณทุกอย่าง
เคยมั้ยที่จะมี... คนอยู่เคียงข้างคุณเวลาที่คุณเสียใจ
เคยมั้ยที่จะมี... คนจดจำความเป็นคุณได้ทุกอย่าง
เคยมั้ยที่จะมี... คนยอมเสียสิ่งที่รักเพื่อคุณ
เคยมั้ยที่จะมี... คนเห็นคุณสำคัญกว่าเพื่อน
เคยมั้ยที่จะมี... คนที่คุณอยู่ด้วยเฉย ๆ แล้วมีความสุข
เคยมั้ยที่จะมี... คนที่มั่นใจในคำว่ารักของคุณ
เคยมั้ยที่จะมี...ไม่อายเมื่อเดินข้างคุณ แม้คุณหน้าตาไม่ดีก็ตาม
เคยมั้ยที่จะมี... คนที่ทนคุณได้ไม่ว่า คุณจะด่า จะว่า เค้ายังไง
เคยมั้ยที่จะมี... คนรับได้ในสิ่งที่คุณเป็นไม่ว่าจะมีคนมาว่าร้ายคุณยังไง
เคยมั้ยที่จะมี... คนที่เห็นความผิดของคุณเป็นเรื่องน่ารัก
เคยมั้ยที่จะมี... คนที่คุณอยากตื่นมาแล้วก็เจอ
เคยมั้ยที่จะมี... คนที่คุณคิดถึงเค้า แม้ว่าคุณไม่เหงาก็ตาม
เคยมั้ยที่จะมี... คนที่คุณคิดถึงคนแรก เมื่อคุณทุกข์ใจ
เคยมั้ยที่จะมี... คนที่คุณรู้ว่า เค้าช่วยให้คุณสบายใจได้
เคยมั้ยที่จะมี... คนแคร์คุณมากมาย ไม่ว่าคุณจะทำร้ายเค้ายังไง
เคยมั้ยที่จะมี... คนที่รับรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณ
เคยมั้ยที่จะมี... คนที่ยังรักคุณแม้คุณไม่เห้นความสำคัญของเค้าเลย
ถ้าคุณเคยมีเค้าคนนี้อยู่จริง คุณควรถนอมเค้าไว้ให้ดี ถ้าคุณสูญเสียเค้าไปคุณเองที่จะเป็นคนเสียใจ ... ความหมายของหัวใจ เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่า เพียงแค่มีบางสิ่ง ..... ชีวิตก็มีความหมายแล้ว .....



Welcome to my World!!!

ชื่อ วัลลภา นามสกุล แสงกล้า เป็นมนุษย์โลก หัวโตๆคนหนึ่ง ที่รูปร่างหน้าตาไม่ได้สวยเริศ ที่สำคัญฉันก็มีนิสัยเหมือนๆกับผู้หญิงทั่วๆไปบนโลกใบนี้

ชอบทำตัวเป็นหัวโจก เข้มแข็ง ไม่อ่อนแอ แต่ก็เจ็บได้ร้องไห้เป็น
ไม่โกธร ไม่เกลียด แต่จำทุกรายละเอียดที่คุณทำ..

ตอนเด็กๆเคยอยากบินได้เหมือนซุปเปอร์แมน เลยปีนขึ้นไปบนต้นมะยมแล้วเหอะลงมา หัวเลยกระทบกระเทือนนิดหน่อย โตขึ้นมาเลยออกแนวเพี้ยนๆ ชอบพูดจาฟังแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่ค่อยจะเข้าใจ บางที่ก็งงกับคำพูดของตัวเอง จนพ่อกับแม่บอกว่าจะพาไปเช็คสมอง....สงสัยว่าลูกจะบ้า

บางทีก็ปากแมวๆ พูดอะไรไม่ค่อยคิด คิดมากกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ระแวง ดื้อ ไม่ได้ตอแหล แต่เป็นคนตรงๆ เถียงตลอดนี้คือส่วนลึกของจิตใจหรือสันดานนั้นเอง แต่บางทีก็พยายามจะเป็นคนดีนะ

เป็นตัวของตัวเอง ไม่ค่อยสนโลก....ก็ฉันเป็นของฉันแบบนี้

ถ้าได้รักใครก็ทุ่มให้จนเกินร้อย แต่ก็เจ็บตลอด นี้แหล่ะชีวิต...


"ฉันก็คือฉัน"

ฉันคือผู้หญิงคนธรรมดาคนหนึ่ง

ฉัน คือ ฉัน

มีอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับใคร!!